นายธัชพลวงษ์รักษารองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการอินฟอร์มามาร์เก็ตส์ประเทศไทยเปิดเผยว่าอุตสาหกรรมความงามในประเทศไทยมีจุดแข็งสำคัญในฐานะแหล่งวัตถุดิบของเครื่องสำอางธรรมชาติ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากทั่วโลกและมีมูลค่าตลาดสูงถึง2.3แสนล้านบาทรวมถึงเป็นฮับของการรับจ้างผลิตที่มีชื่อเสียงระดับโลกทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสจัดงานCosmoprof CBE ASEAN 2023แสดงสินค้าและบริการด้านความงามดึงภาคเอกชนมาร่วมงานกว่า1,000ราย จาก20ประเทศทั่วโลกและผู้ผลิตเครื่องสำอางและความงามจากไทยมาร่วมชูสินค้าที่ผลิตจากไทยเพื่อเปิดโอกาสสร้างแบรนด์ไทยสู่คู่ค้าทั่วโลกระหว่างวันที่14-16ก.ย. 66นี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์คาดว่าจะมียอดขายภายในงาน1,000ล้านบาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางมิสทิน กล่าวว่า ประเทศไทยน่าจะใช้โอกาสของการเป็นเมืองร้อนในการผลิตสินค้าแบรนด์เครื่องสำอางของไทยให้สอดรับกับภูมิอากาศ อาทิ ครีมกันแดดที่อาจชูเป็นสินค้าหลักของไทย ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วซื้อกลับไปเป็นของฝาก เพราะปัจจุบันเครื่องสำอางไทยกำลังได้รับสนใจจากตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก เห็นได้จากแบรนด์ มิสทิน ที่ได้รับการจัดอันดับ 1 ใน 10 ของผลิตภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องซื้อเมื่อเดินทางมาไทย
ทั้งนี้เกิดจากการที่บริษัทมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่แบรนด์และคำว่าเมดอินไทยแลนด์กลายเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างให้การยอมรับและเชื่อมั่นมายาวนานอีกทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดดของมิสทินกลายเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับต้นๆในตลาดประเทศจีนจนปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาด70%ในตลาดรวมครีมกันแดดที่จีนจาก3กลุ่มสินค้าที่ขายดีคือครีมกันแดด,เครื่องสำอางงานผิวเช่นคูชั่นรองพื้น,คัลเลอร์เมคอัพตั้งเป้าหมายปีนี้มีรายได้3,600-3,700ล้านบาทเติบโต20%แบ่งเป็นสัดส่วนส่งออก1,000ล้านบาทหรือราว40%โดยตลาดหลักมาจากจีนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง