เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ตำรวจชุดสืบสวนสน.สนคำพูดจาก เล่นเกมสล็อตออนไลน์. สำราญราษฎร์ นำตัวชายที่ถูกระบุว่า แซงคิวและไม่จ่ายเงินค่าอาหารร้านเจ๊ไฝ ไปยังร้านเพื่อทำการสอบถามเจ๊ไฝว่า จะติดใจเอาความทางคดีอาญากับชายคนดังกล่าวหรือไม่
เมื่อไปถึงชายคนดังกล่าวได้ยกมือไหว้ขอโทษเจ๊ไฝว่าไม่ได้ตั้งใจจะชักดาบ จากนั้นได้จ่ายเงินค่าอาหารมื้อดังกล่าวให้กับเจ๊ไฝ แล้วเปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่มีการโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย แต่เชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิดของลูกสาวเจ๊ไฝ หรืออาจเป็นโต๊ะข้าง ๆ ที่ได้ยินข้อมูลการสนทนา
ครอบครัวร้อง “ปวีณา” ช่วย กรณีลูกสาวถูกผลักตกคอนโดที่มาเลเซีย
จับขบวนการค้าบุหรี่เถื่อน ของกลางเป็นบุหรี่ 3.5 ล้านมวน
กรมอุตุฯ ประกาศเตือนฉบับที่ 4 “พายุฤดูร้อน” ถึง 3 มี.ค. นี้
เขายืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจจะไม่จ่ายค่าอาหาร แต่ตนเองมีปัญหาเรื่องความจำ และอ้างว่าจะต้องรีบออกไปเอารถที่ทำกระจกไว้ในบริเวณใกล้เคียง ก่อนที่จะนึกได้ว่าลืมจ่ายค่าอาหาร จึงตั้งใจว่าจะกลับมาที่ร้านและจ่ายเงินในวันรุ่งขึ้น แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ เสียก่อน จึงพยายามติดต่อเข้ามาที่สถานีตำรวจสำราญราษฎร์ให้มารับตัว ยืนยันว่าไม่เคยก่อเหตุลักษณะแบบนี้ที่ร้านอื่นมาก่อน
เขาบอกว่า "ไม่ได้ตั้งใจครับ ไม่ได้แอบอ้างเป็นตำรวจ ไม่ได้ขอลัดคิว ก็เดินตามคนข้างหน้าไปเรื่อย ๆ ไม่ได้บอกว่าป็นสารวัตร … จำไม่ได้เลย (ว่ายังไม่ได้จ่ายเงิน) ผมเป็นโรคความจำเสื่อม"
ด้านเจ๊ไฝ เปิดเผยว่า ไม่ติดใจเอาความทางคดีกับชายคนดังกล่าวให้เลิกแล้วต่อกัน ที่ผ่านมาเคยมีลูกค้าชาวต่างชาติมากินอาหารและไม่จ่ายเงินแต่ก็ติดต่อไปทางโรงแรมให้มาจ่ายเงินและไม่ได้ติดใจเอาความกับใคร แต่ไม่เคยมีคนไทยทำแบบนี้มาก่อน ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตกใจ และได้ต่อว่า ลูกสาวที่ไม่ยอมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังตั้งแต่ต้น จนทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต
ด้านพันตำรวจเอก ทศพล อําไพพิพัฒน์กุล ผู้กำกับการสน. สำราญราษฎร์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นคดีความเพราะตัวเจ๊ไฝไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่จะมีการตรวจสอบต่อไปว่าชายคนดังกล่าวเคยก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาก่อนหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกฎหมายว่าจะเข้าข่ายหรือไม่เพราะในระหว่างเกิดเหตุเจ้าตัวไม่ได้มีการแต่งเครื่องแบบตำรวจหรือแสดงบัตรเอกสารว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจจึงอาจไม่เข้าข่ายที่จะดำเนินคดีได้ แต่หากพบว่าเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดก็จะดำเนินการในภายหลัง